คำอธิบาย
Canon EOS R6 Mark II คือกล้องมิเรอร์เลส Full-Frame ประสิทธิภาพสูงที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งช่างภาพและผู้สร้างคอนเทนต์วิดีโอโดยเฉพาะ ด้วยความสามารถที่โดดเด่นในการจับภาพช่วงเวลาสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่งหรือวิดีโอ กล้องนี้จึงเป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสร้างสรรค์อย่างไร้ขีดจำกัด EOS R6 Mark II เหมาะอย่างยิ่งสำหรับช่างภาพมือสมัครเล่นขั้นสูง ผู้ที่กำลังเปลี่ยนจากกล้อง DSLR และผู้ที่ต้องการฟังก์ชันการใช้งานที่ใช้งานง่าย แต่ยังคงให้ผลลัพธ์ระดับมืออาชีพ
ในฐานะที่เป็นรุ่น "Mark II" กล้องนี้ได้รับการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญจาก EOS R6 รุ่นก่อนหน้า ด้วยคุณสมบัติใหม่และที่ได้รับการปรับปรุง เช่น ระบบออโต้โฟกัสที่ยกระดับประสบการณ์การถ่ายภาพโดยรวมให้ดียิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การพัฒนาเหล่านี้ทำให้ EOS R6 Mark II เป็นกล้องที่ "ใช้งานได้หลากหลายอย่างน่าทึ่ง" (Swiss Army Knife) เหมาะสำหรับงานถ่ายภาพและวิดีโอที่หลากหลาย ตั้งแต่การถ่ายภาพบุคคล, ทิวทัศน์, กีฬา, สัตว์ป่า ไปจนถึงงานโปรดักชันระดับมืออาชีพ, การทำ Vlogging และภาพยนตร์ ความสามารถรอบด้านนี้ทำให้กล้องเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการกล้องตัวเดียวที่สามารถจัดการกับความต้องการด้านภาพและวิดีโอที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คุณภาพของภาพที่เหนือกว่า
เซนเซอร์ CMOS ฟูลเฟรมความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซลที่พัฒนาขึ้นใหม่ ทำงานร่วมกับโปรเซสเซอร์ภาพ DIGIC X รุ่นล่าสุด ให้ภาพคุณภาพสูงพร้อมสัญญาณรบกวนที่ลดลง
เก็บภาพที่น่าทึ่งได้แม้ในสภาพแสงที่ท้าทาย ด้วยความไวแสงน้อยถึง EV -6.5 และ ISO ที่ปรับได้สูงสุดถึง 102,400
รวดเร็วเหนือจินตนาการ
คุณสามารถโฟกัสวัตถุได้ในพริบตาด้วยความเร็ว AF สูงสุดถึง 0.03 วินาที ผสานกับความสามารถในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 40 ภาพต่อวินาที ด้วย Electronic Shutter และสูงสุด 12 ภาพต่อวินาที ด้วย Mechanical Shutter พร้อมการติดตาม AF/AE ทำให้ EOS R6 Mark II สามารถจับภาพการเคลื่อนไหวความเร็วสูงได้อย่างแม่นยำสูงสุด
การถ่ายภาพต่อเนื่องที่เงียบสนิทถึง 40 ภาพต่อวินาทีนี้ มีประโยชน์อย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ต้องการความเงียบ เช่น การแสดงคอนเสิร์ต หรือการถ่ายภาพสัตว์ป่า
Capture the Decisive Moment: ประสิทธิภาพภาพถ่ายที่เหนือกว่า
Canon EOS R6 Mark II สร้างมาตรฐานใหม่ในด้านคุณภาพของภาพนิ่ง ด้วยเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาอย่างพิถีพิถันเพื่อมอบความคมชัดและรายละเอียดที่ยอดเยี่ยมในทุกสภาพแวดล้อม
- เซ็นเซอร์ Full-Frame 24.2MP และ DIGIC X Processor ใหม่ หัวใจสำคัญของ EOS R6 Mark II คือเซ็นเซอร์ CMOS Full-Frame ขนาด 24.2 ล้านพิกเซลที่พัฒนาขึ้นใหม่โดย Canon การเพิ่มความละเอียดจาก 20MP ในรุ่น R6 เดิมเป็นการปรับปรุงที่น่ายินดี ซึ่งช่วยให้สามารถจับภาพรายละเอียดได้มากขึ้น และเทียบเท่ากับกล้องยอดนิยมอื่นๆ ในตลาด เมื่อทำงานร่วมกับชิปประมวลผลภาพ DIGIC X เวอร์ชั่นใหม่ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น กล้องนี้ให้คุณภาพของภาพที่โดดเด่น พร้อม Dynamic Range ที่กว้าง และสีสันที่สวยงามเป็นธรรมชาติ
- ประสิทธิภาพ ISO สูงที่ยอดเยี่ยม: ด้วยขนาดพิกเซลที่ใหญ่บนเซ็นเซอร์ Full-Frame ทำให้ R6 Mark II จัดการ Noise ได้อย่างยอดเยี่ยมในสภาพแสงน้อย กล้องสามารถใช้งานได้ดีเยี่ยมที่ ISO สูงถึง 6400 โดยยังคงรายละเอียดภาพที่ดี และยังคงใช้งานได้ดีแม้ใน ISO 12,800 ช่วง ISO มาตรฐานอยู่ที่ 100-102,400 และสามารถขยายได้ถึง 50-204,800/204,801 ความสามารถนี้ช่วยลดความจำเป็นในการพกพาแฟลชภายนอก ทำให้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับช่างภาพที่เดินทา
- ระบบกันสั่นในตัวกล้อง (IBIS) สูงสุด 8 สต็อป EOS R6 Mark II มาพร้อมระบบกันสั่น 5 แกนในตัวกล้อง (IBIS) ที่ทรงพลัง ซึ่งสามารถชดเชยการสั่นไหวได้สูงสุดถึง 8 สต็อป เมื่อทำงานร่วมกับเลนส์ที่มีระบบกันสั่น ประโยชน์ที่สำคัญของ IBIS คือช่วยให้ช่างภาพสามารถถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยด้วยความเร็วชัตเตอร์ที่ต่ำลงโดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง ลดการสั่นไหวเมื่อใช้เลนส์เทเลโฟโต้ และเพิ่มความคมชัดของภาพในสถานการณ์ที่ท้าทาย การควบคุมการสั่นไหวร่วมกันนี้ช่วยให้สามารถแสดงความรู้สึกของการเคลื่อนไหวเมื่อถ่ายภาพในที่มืดด้วยความเร็วชัตเตอร์ต่ำ
- ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 40fps พร้อมโหมด RAW Burst R6 Mark II สร้างมาตรฐานใหม่ด้วยความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องที่เร็วที่สุดในคลาส
- Electronic Shutter: สามารถถ่ายภาพได้สูงสุด 40 เฟรมต่อวินาที (fps) พร้อม AF/AE Tracking ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการจับภาพแอ็คชั่นที่รวดเร็วและคาดเดาไม่ได้ เช่น กีฬาหรือสัตว์ป่า ที่ความเร็วนี้ กล้องสามารถบันทึกไฟล์ JPEG ได้ถึง 190 ภาพ, RAW 75 ภาพ หรือ CRAW 140 ภาพ
- Mechanical Shutter: กล้องยังคงสามารถถ่ายได้ที่ 12 fps ซึ่งเหมาะสำหรับสถานการณ์ที่ต้องการ Dynamic Range สูงสุด หรือหลีกเลี่ยง Rolling Shutter Effect ที่อาจเกิดขึ้นกับ Electronic Shutter. ที่ความเร็วนี้ กล้องสามารถบันทึกไฟล์ JPEG ได้มากกว่า 1000 ภาพ, RAW 110 ภาพ หรือ CRAW 1000 ภาพ
- RAW Burst Mode พร้อม Pre-shooting: โหมดนี้เป็นคุณสมบัติที่พลิกโฉมการจับภาพช่วงเวลาสำคัญที่เกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตา เมื่อเปิดใช้งานและกดปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่ง กล้องจะเริ่มบัฟเฟอร์ภาพ เมื่อกดชัตเตอร์จนสุด กล้องจะบันทึกภาพที่บัฟเฟอร์ไว้ก่อนหน้าการกดชัตเตอร์เต็มที่ถึงครึ่งวินาที (ประมาณ 15 ภาพ) ตามด้วยภาพที่เหลือในชุด คุณสมบัตินี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการจับภาพเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น นกที่กำลังจะบินขึ้น หรือนักกีฬาที่กำลังจะออกตัว ทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่พลาดช็อตสำคัญ นอกจากนี้ยังรองรับการถ่ายภาพ HDR สำหรับวัตถุที่เคลื่อนไหว เพื่อเพิ่ม Dynamic Range
ระบบออโต้โฟกัสตรวจจับบุคคล (People Priority)
สามารถติดตามการเคลื่อนไหวของร่างกาย, ศีรษะ หรือดวงตาของตัวแบบได้อย่างแม่นยำสูง แม้ว่าตัวแบบจะถูกบดบังไปบ้างก็ตาม
ในกล้อง EOS R6 Mark II ยังมีตัวเลือกให้คุณสามารถเลือกได้ว่าจะติดตามดวงตาข้างไหนผ่านฟังก์ชัน Left/Right Eye Priority Tracking ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการถ่ายภาพระยะใกล้ของตัวแบบที่กำลังเคลื่อนไหว
ระบบออโต้โฟกัสตรวจจับสัตว์ (Animal Priority)
การทำให้สัตว์อยู่ในโฟกัสตลอดเวลานั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ดังนั้นคุณสมบัติที่เน้นติดตามเป้าหมายที่เป็นสัตว์ของแคนนอนจึงได้รับการยอมรับอย่างมากจากช่างภาพที่นิยมถ่ายรูปสัตว์
นอกจากจะสามารถตรวจจับและติดตามใบหน้า ดวงตา และร่างกายของสัตว์ประเภทแมว สุนัข และนก ยังเพิ่มความสามารถใหม่ในการถ่ายภาพม้าได้อีกด้วย
ระบบออโต้โฟกัสตรวจจับยานพาหนะ (Vehicle Priority)
คุณสมบัติที่เน้นตรวจจับและติดตามเป้าหมายที่เป็นยานพาหนะ รวมไปถึงการจับโฟกัสที่หมวกกันน็อคของผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซต์ ช่วยให้คุณได้ภาพที่คมชัดในโลกของการแข่งขันยานยนต์ที่ต้องอาศัยความเร็วเป็นหลัก
เพิ่มความสามารถอีกขั้นด้วยการตรวจจับและติดตามตัวแบบที่เป็นรถไฟและเครื่องบิน ทำให้การถ่ายภาพของคุณเป็นเรื่องง่ายดายยิ่งขึ้น
Intelligent Autofocus: ความแม่นยำอัจฉริยะที่เหนือกว่า
ระบบออโต้โฟกัสของ Canon EOS R6 Mark II ได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ด้วยเทคโนโลยี Dual Pixel CMOS AF II ที่สืบทอดมาจาก EOS R3 ซึ่งเป็นกล้องมิเรอร์เลสที่ล้ำหน้าที่สุดของ Canon ระบบนี้ได้รับการปรับแต่งด้วยอัลกอริทึมการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning AI) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับและติดตามวัตถุ ทำให้การโฟกัสมีความแม่นยำและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น
- การตรวจจับวัตถุอัจฉริยะ: กล้องสามารถตรวจจับและติดตามวัตถุได้อย่างชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์, สัตว์ (สุนัข, แมว, นก, ม้า, ม้าลาย) หรือยานพาหนะ (รถแข่ง, มอเตอร์ไซค์, เครื่องบิน, รถไฟ) โหมด "Auto" ใหม่ช่วยให้กล้องเลือกอัลกอริทึมการตรวจจับวัตถุที่ดีที่สุดโดยอัตโนมัติ ทำให้การทำงานง่ายขึ้นเมื่อต้องถ่ายภาพวัตถุที่หลากหลาย
- Eye AF และการติดตาม: ระบบ Eye AF มีประสิทธิภาพสูง สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นในทุกโหมดโฟกัสและพื้นที่โฟกัส สามารถติดตามดวงตา ใบหน้า ศีรษะ และแม้กระทั่งร่างกายของบุคคลได้อย่างแม่นยำ ความสามารถในการเลือกโฟกัสที่ตาซ้ายหรือตาขวา หรือให้กล้องเลือกตาที่ใกล้ที่สุดโดยอัตโนมัติ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับช่างภาพบุคคลและผู้สร้างวิดีโอ ระบบนี้ยังทำงานได้ดีเยี่ยมสำหรับการถ่าย Vlogging แบบคนเดียว โดยสามารถติดตามผู้พูดได้อย่างแม่นยำแม้มีการเคลื่อนไหว
- ประสิทธิภาพในสภาพแสงน้อย: ระบบ AF มีช่วงการทำงานที่น่าประทับใจถึง EV -6.5 ถึง 21 (ที่ 23°C & ISO100) ทำให้สามารถโฟกัสได้อย่างแม่นยำแม้ในสภาพแสงที่มืดมาก ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการถ่ายภาพในเวลากลางคืนหรือในร่ม
- 'Detect Only' AF Mode สำหรับวิดีโอ: ในโหมดวิดีโอ กล้องมีคุณสมบัติ 'Detect Only' AF ที่ช่วยป้องกันไม่ให้โฟกัสเลื่อนไปยังพื้นหลังหากวัตถุออกจากเฟรมชั่วคราว โดยจะกลับมาติดตามวัตถุเดิมทันทีที่กลับเข้ามาในเฟรม คุณสมบัตินี้ช่วยให้การโฟกัสในวิดีโอมีความน่าเชื่อถือและราบรื่นยิ่งขึ้น
180p FHD
ยกระดับการเล่าเรื่องของคุณด้วยเอฟเฟกต์สโลว์โมชันสุดดราม่าด้วยการบันทึกวิดีโอแบบ Full High Definition (FHD) ที่ 180p ไม่ว่าคุณจะถ่ายภาพน้ำตก โปรยกระดาษสี หรือกระโดดกลางอากาศ คุณสามารถชะลอการเคลื่อนไหวได้สูงสุดถึง 6 เท่าเมื่อเล่นวิดีโอของคุณที่ 30fps
6K 60p RAW
ก้าวข้ามขีดจำกัดของการปรับแต่งวิดีโอในขั้นตอนหลังการถ่ายทำ ด้วยวิดีโอ 6K 60p 10-bit RAW ที่มาพร้อมกับช่วงไดนามิกที่กว้างขึ้นและความคมชัดที่เหนือกว่า
นอกจากนี้ คุณยังได้รับความยืดหยุ่นในการแพนและซูมได้อย่างอิสระภายในความละเอียด 6K และยังคงสามารถส่งออกผลลัพธ์เป็นความละเอียด 4K คุณภาพสูงได้
*สามารถบันทึกได้ผ่านเอาต์พุต HDMI ด้วยอุปกรณ์บันทึกภายนอกที่รองรับ เช่น Atomos Ninja V+
Canon Log 3
Canon Log 3 เป็นที่นิยมในหมู่นักสร้างภาพยนตร์ด้วยช่วงไดนามิกที่ยอดเยี่ยม สามารถแสดงการไล่ระดับสีได้อย่างราบรื่นในฉากที่มีคอนทราสต์สูง ทำให้มีความหลากหลายในการใช้งานสูงและสามารถแก้ไขปรับแต่งได้มากในขั้นตอนหลังการถ่ายทำ
ฟังก์ชันวัดแสง False Colour
ฟังก์ชัน False Colour ช่วยให้คุณสามารถระบุสถานะการรับแสงของการบันทึกได้ ทำให้คุณสามารถปรับแก้ไขเพื่อป้องกันไม่ให้วิดีโอของคุณมืดหรือสว่างจนเกินไป
ฟังก์ชัน Zebra Display
คุณสามารถระบุจุดที่อาจมีแสงโอเวอร์ได้ทันทีด้วย Zebra Patterns ซึ่งจะปรากฏขึ้นบนพื้นที่ที่มีความสว่างตรงกับหรือเกินกว่าระดับที่ตั้งไว้ ช่วยให้คุณสามารถปรับแก้ได้ทันท่วงทีก่อนที่ส่วนสว่างจะถูกตัด (Highlights clipped)
Unleash Your Creativity in Video: ก้าวข้ามขีดจำกัดแห่งการสร้างสรรค์ภาพเคลื่อนไหว
Canon EOS R6 Mark II ไม่เพียงแต่เป็นเลิศด้านภาพนิ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นกล้อง Hybrid ที่ทรงพลังสำหรับงานวิดีโอ ด้วยการอัปเกรดที่สำคัญซึ่งตอบสนองความต้องการของผู้สร้างคอนเทนต์และนักภาพยนตร์มืออาชีพ
- บันทึกวิดีโอ 4K 60p แบบไม่ครอปเต็มเซ็นเซอร์ (Oversampled จาก 6K) หนึ่งในการปรับปรุงที่โดดเด่นที่สุดคือความสามารถในการบันทึกวิดีโอ UHD 4K 60p โดยใช้ความกว้างของเซ็นเซอร์ทั้งหมด ทำให้ไม่มีการครอปภาพเหมือนในรุ่น R6 เดิม คุณภาพของวิดีโอ 4K นี้ได้รับการยกระดับด้วยการ Oversample จากข้อมูล 6K ซึ่งส่งผลให้ได้ภาพที่คมชัดและมีรายละเอียดที่เหนือกว่า กล้องยังสามารถบันทึก 4K 60p จากการครอปแบบ APS-C ได้อีกด้วย
- ประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่เหนือกว่า: Canon ระบุว่า R6 Mark II สามารถบันทึกวิดีโอ 4K 60p ได้นานถึง 40 นาทีเมื่อใช้ความกว้างเซ็นเซอร์เต็มรูปแบบ และนานถึง 50 นาทีในโหมด APS-C ที่อุณหภูมิ 23°C การทดสอบจริงยังแสดงให้เห็นว่าสามารถบันทึก 4K 60p ได้นานกว่าหนึ่งชั่วโมงที่อุณหภูมิห้อง ซึ่งบ่งชี้ว่าปัญหาความร้อนสูงเกินไปไม่ใช่ข้อจำกัดที่สำคัญสำหรับการใช้งานส่วนใหญ่ สำหรับ 4K 30p หรือ 4K 24p จะไม่มีข้อจำกัดด้านเวลาในการบันทึก
- รองรับการบันทึก 6K ProRes RAW ผ่าน HDMI Out สำหรับงานโปรดักชันระดับมืออาชีพ EOS R6 Mark II รองรับเวิร์กโฟลว์วิดีโอ ProRes RAW เมื่อเชื่อมต่อกับเครื่องบันทึกภายนอกที่รองรับ เช่น Atomos Ninja V+ ซึ่งรวมถึงวิดีโอ 6K Raw โดยใช้ความกว้างเซ็นเซอร์เต็มรูปแบบ หรือ 3.7K Raw โดยใช้การครอปแบบ Super35 กล้องยังสามารถบันทึกไฟล์พร็อกซี่ Full HD ภายในพร้อมกันได้ในขณะที่บันทึก Raw ภายนอก ซึ่งช่วยให้การทำงานหลังการถ่ายทำมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ไม่มีข้อจำกัดเวลาในการบันทึกวิดีโอต่อเนื่อง ข้อจำกัดการบันทึก 30 นาทีที่มีอยู่ใน EOS R6 รุ่นเดิมได้ถูกยกเลิกไปใน Mark II Canon ประมาณการว่า R6 Mark II สามารถบันทึกวิดีโอ 4K 60p ได้นานกว่า 40 นาที และนานถึง 6 ชั่วโมงที่ 4K 30p โดยขึ้นอยู่กับพลังงานและพื้นที่จัดเก็บข้อมูล ความสามารถในการบันทึกที่ยาวนานนี้มอบอิสระอย่างมากสำหรับผู้สร้างคอนเทนต์ที่ต้องการถ่ายทำคลิปยาวๆ เช่น การสัมภาษณ์ หรือการบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ
- วิดีโอ High Frame Rate และเครื่องมือระดับมืออาชีพ กล้องสามารถบันทึกวิดีโอ Full HD ที่ 180p, 150p, 119.88p หรือ 100p ซึ่งสามารถนำมาเล่นเป็นวิดีโอสโลว์โมชั่น 1/6 เท่าได้ ทำให้สามารถสร้างสรรค์ฉากที่มีการเคลื่อนไหวช้าได้อย่างน่าทึ่ง นอกจากนี้ R6 Mark II ยังรองรับการบันทึกแบบ Canon Log 3 และ HDR PQ (HEIF 10-bit) เพื่อให้ได้ Dynamic Range ที่กว้างขึ้นและสีสันที่แม่นยำสำหรับการทำ Color Grading ในขั้นตอนหลังการผลิต คุณสมบัติ "False Colour" ช่วยในการประเมินระดับแสงในฉากด้วยการแสดงสีต่างๆ ที่บ่งบอกถึงระดับความสว่าง การแก้ไข Focus Breathing ยังได้รับการสนับสนุนจากเลนส์ RF บางรุ่นผ่านการอัปเดตเฟิร์มแวร์ ซึ่งช่วยลดการเปลี่ยนแปลงมุมมองเมื่อปรับโฟกัส
พร้อมเสมอสำหรับการสตรีมสด
กล้อง EOS R6 Mark II สามารถทำงานเป็นกล้องภายนอกหรือเว็บแคมได้ทันทีโดยไม่จำต้องใช้ไดร์เวอร์หรือแอปพลิเคชันใดเพิ่มเติม เพียงแค่ต่อสาย USB ที่รองรับ USB Video Class/USB Audio Class (UVC/UAC) เข้ากับคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ Windows หรือ MacOS
สร้างความแตกต่างให้ตัวเองโดยการเข้าถึงผู้ชมด้วยคุณภาพวิดีโอที่ยอดเยี่ยมในระหว่างการถ่ายทอดสดของคุณ
บันทึกการ์ดคู่
สามารถบันทึกวิดีโอและภาพนิ่งพร้อมกันลงการ์ด SD ทั้งสองช่อง เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการบันทึก
ปรับเลือกวิธีการบันทึกให้เหมาะกับการนำไปใช้งานมากที่สุด ทั้งแยกการบันทึกภาพรูปแบบ 4K 60p และ FHD 180p ไว้ที่การ์ดแต่ละใบ หรือแยกการ์ดสำหรับบันทึกภาพนิ่งและวิดีโอ
Seamless Connectivity & Design Excellence: การออกแบบ การเชื่อมต่อ และการใช้งานที่เหนือกว่า
Canon EOS R6 Mark II ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยม ด้วยการผสมผสานระหว่างการยศาสตร์ที่เหนือกว่า ความทนทาน และตัวเลือกการเชื่อมต่อที่หลากหลาย
- การออกแบบและโครงสร้าง: ตัวกล้องมีรูปทรงโค้งมนและพื้นผิวที่จับกระชับมือ มอบความรู้สึกสบายในการถือใช้งาน โครงสร้างหลักทำจาก Magnesium Alloy และแผงด้านนอกเป็นเรซินโพลีคาร์บอเนตผสมใยแก้ว ทำให้มีความทนทานสูง นอกจากนี้ยังมาพร้อม Weather Sealing ที่ช่วยป้องกันฝุ่นและละอองน้ำ ทำให้สามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายได้ การออกแบบปุ่มและสวิตช์ได้รับการปรับปรุงเพื่อความสะดวกในการใช้งานสำหรับทั้งภาพถ่ายและวิดีโอ
- ช่องมองภาพ (EVF) และจอ LCD: กล้องมีช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) แบบ OLED ขนาด 0.5 นิ้ว ความละเอียด 3.69 ล้านจุด ให้มุมมองที่ครอบคลุม 100% และกำลังขยายประมาณ 0.76x สามารถแสดงผลได้สูงสุด 120 fps เพื่อการมองเห็นที่ราบรื่น จอ LCD ด้านหลังขนาด 3.0 นิ้ว ความละเอียด 1.62 ล้านจุด เป็นแบบปรับหมุนได้ (Vari-angle Touchscreen) ซึ่งให้ความยืดหยุ่นสูงสำหรับการถ่ายภาพในมุมที่หลากหลายและการถ่ายวิดีโอแบบ Vlogging
- ช่องใส่ SD Card คู่: กล้องมีช่องใส่ SD Card สองช่องที่รองรับมาตรฐาน UHS-II ซึ่งช่วยให้การจัดเก็บข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็วและปลอดภัย สามารถตั้งค่าให้บันทึกสำเนา หรือบันทึกภาพนิ่งและวิดีโอแยกกันได้ เพิ่มความมั่นใจในการทำงาน
- แบตเตอรี่และพลังงาน: EOS R6 Mark II มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น โดยมีอัตราการถ่ายภาพตามมาตรฐาน CIPA อยู่ที่ประมาณ 760 ภาพเมื่อใช้จอ LCD และ 450 ภาพเมื่อใช้ EVF ในโหมดประหยัดพลังงาน กล้องยังรองรับการชาร์จผ่าน USB-C ด้วยแหล่งจ่ายไฟ USB-PD ซึ่งสะดวกสำหรับการใช้งานนอกสถานที่
- การเชื่อมต่อที่หลากหลาย: กล้องมี Wi-Fi (2.4GHz/5GHz) และ Bluetooth Low Energy (LE) ในตัว สามารถเชื่อมต่อกับแอป Canon Camera Connect เพื่อควบคุมกล้องจากระยะไกล ถ่ายโอนภาพและวิดีโอไปยังสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ยังรองรับการถ่ายโอนไฟล์ไปยังเซิร์ฟเวอร์ FTP ด้วยแอป Mobile File Transfer สำหรับช่างภาพมืออาชีพ พอร์ต USB 3.2 Gen 2 (USB-C) ยังสามารถใช้สำหรับการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ
- การแยกโหมดภาพถ่ายและวิดีโอโดยเฉพาะ: กล้องมีคันโยกเฉพาะสำหรับสลับระหว่างโหมดภาพถ่ายและวิดีโอ ทำให้สามารถเปลี่ยนการตั้งค่าได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องใช้แป้นหมุนโหมด การตั้งค่าสำหรับภาพนิ่งและวิดีโอจะถูกจดจำแยกกัน ทำให้การสลับโหมดเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
ข้อมูลจำเพาะเชิงลึก (Detailed Specifications)
คุณสมบัติ | รายละเอียด |
เซ็นเซอร์รับภาพ | |
ประเภท | CMOS Full-Frame ขนาด 35.9 x 23.9 มม. |
พิกเซลใช้งานจริง | ประมาณ 24.2 ล้านพิกเซล |
พิกเซลรวม | ประมาณ 25.6 ล้านพิกเซล |
อัตราส่วนภาพ | 3:2 |
ระบบทำความสะอาดเซ็นเซอร์ | ระบบทำความสะอาดในตัว EOS |
ระบบกันสั่นแบบ Sensor-Shift (IBIS) | มี, ชดเชยได้สูงสุด 8 สต็อป ขึ้นอยู่กับเลนส์ที่ใช้ |
หน่วยประมวลผลภาพ | |
ประเภท | DIGIC X |
เลนส์ | |
เมาท์เลนส์ | Canon RF |
เลนส์ที่รองรับ | เลนส์ RF (สามารถใช้เลนส์ EF และ EF-S ได้ด้วย Mount Adapter EF-EOS R) |
ทางยาวโฟกัส | เทียบเท่า 1.0x ของทางยาวโฟกัสเลนส์สำหรับ RF/EF, 1.6x สำหรับ RF-S/EF-S |
ระบบโฟกัส | |
ประเภท | Dual Pixel CMOS AF II |
จุด AF | ครอบคลุม 100% แนวนอนและแนวตั้งในโหมด Face + Tracking และ Auto Selection |
ช่วงการทำงาน AF | EV -6.5 – 21 (ที่ 23°C & ISO100) |
โหมด AF | One Shot, Servo AF, AI Focus AF |
การติดตาม AF | มนุษย์, สัตว์ (สุนัข, แมว, นก, ม้า, ม้าลาย), ยานพาหนะ (รถแข่ง, มอเตอร์ไซค์, เครื่องบิน, รถไฟ) |
การควบคุมค่าแสง | |
โหมดวัดแสง | Evaluative, Partial, Spot, Center-weighted average |
ช่วงความสว่างการวัดแสง | EV -3 – 20 (ที่ 23°C, ISO100) |
การชดเชยแสง | ±3 สต็อป ใน 1/3- หรือ 1/2-สต็อป |
ISO Sensitivity | อัตโนมัติ 100-102,400 (ขยายได้ถึง L:50, H:204,801) |
ชัตเตอร์ | |
ประเภท | ชัตเตอร์ระนาบโฟกัสควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ และฟังก์ชัน Electronic Shutter บนเซ็นเซอร์ |
ความเร็ว | Mechanical: 30-1/8000 วินาที (รวม Bulb); Electronic: 30-1/16000 วินาที |
ช่องมองภาพและจอ LCD | |
ช่องมองภาพ | OLED สี ขนาด 0.5 นิ้ว, 3.69 ล้านจุด, ครอบคลุม 100%, กำลังขยายประมาณ 0.76x |
จอ LCD | Clear View LCD II ขนาด 7.5 ซม. (3.0 นิ้ว), ประมาณ 1.62 ล้านจุด, ปรับหมุนได้, ระบบสัมผัส |
แฟลช | |
โหมด | E-TTL II Auto Flash, Metered Manual |
X-Sync | 1/200 วินาที (Mechanical) / 1/250 วินาที (Electronic 1st curtain) |
รองรับแฟลชภายนอก | E-TTL II กับ Speedlite ซีรีส์ EX / EL |
การบันทึกภาพนิ่ง | |
ประเภทไฟล์ภาพนิ่ง | JPEG, RAW (RAW, C-RAW 14-bit/12-bit), HEIF (10-bit ในโหมด HDR PQ) |
การถ่ายภาพต่อเนื่อง | Mechanical: สูงสุดประมาณ 12fps (1000+ JPEG, 110 RAW, 1000 CRAW); Electronic: สูงสุดประมาณ 40fps (190 JPEG, 75 RAW, 140 CRAW); RAW Burst: 30fps พร้อม Pre-record 0.3 หรือ 0.5 วินาที |
การบันทึกภาพยนตร์ (EOS Movie) | |
ประเภทภาพยนตร์ | MP4 Video: 4K UHD, Full HD (16:9) |
ขนาดภาพยนตร์ | 4K UHD (3840 x 2160): 59.94, 50, 29.97, 25, 23.98fps (Oversampled จาก 6K) |
Canon Log | Canon Log 3 |
ระยะเวลาการบันทึกสูงสุด | 6 ชั่วโมง (ยกเว้น High Frame Rate movies) |
High Frame Rate Movie | Full HD ที่ 180fps, 150fps, 119.88fps หรือ 100fps (บันทึกเป็นสโลว์โมชั่น 1/6 เท่า) |
HDMI Output | 6K RAW สูงสุด 60p ไปยัง Atomos Ninja V+ (บันทึกเป็น ProRes RAW) หรือ 3.7K RAW พร้อมครอป |
ISO (Movie) | อัตโนมัติ 100-6400, H: 204800; Manual: 100-25600, H: 204801 |
อินเทอร์เฟซและการเชื่อมต่อ | |
คอมพิวเตอร์ | SuperSpeed USB 3.2 Gen 2 USB C |
Wi-Fi | Wireless LAN (IEEE802.11AC/ab/g/n) (5/2.4 GHz) |
Bluetooth | v5.0 |
อื่นๆ | HDMI micro out (Type D), External Microphone In (Stereo mini jack), Headphone socket (Stereo mini jack), E3-type terminal (remote control terminal), Multi-Function shoe |
การจัดเก็บ | |
ประเภท | 2x SD/SDHC/SDXC (รองรับ UHS-II) |
แหล่งพลังงาน | |
แบตเตอรี่ | Li-ion แบบชาร์จไฟได้ LP-E6NH (มาพร้อมกล้อง)/LP-E6N |
อายุการใช้งานแบตเตอรี่ (CIPA) | จอ LCD: ประมาณ 760 ภาพ (ที่ 23°C, โหมดประหยัดพลังงาน); ช่องมองภาพ: ประมาณ 450 ภาพ (ที่ 23°C, โหมดประหยัดพลังงาน) |
การชาร์จ USB | รองรับการชาร์จผ่าน USB Power Delivery (PD-E1) |
ข้อมูลทางกายภาพ | |
วัสดุตัวกล้อง | โครง Magnesium Alloy, แผงภายนอกเป็น polycarbonate resin with glass fiber |
สภาพแวดล้อมการทำงาน | 2 – 40 °C, ความชื้น 85% หรือน้อยกว่า |
ขนาด (กว้าง x สูง x ลึก) | 138.4 × 98.4 × 88.4 มม. |
น้ำหนัก (เฉพาะตัวกล้อง) | ประมาณ 588 กรัม (670 กรัม รวมการ์ดและแบตเตอรี่) |