คำอธิบาย

ความสมบูรณ์แบบรอบรู้
โดดเด่นด้วยการออกแบบเซ็นเซอร์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่Sony a7 IIIเป็นกล้องที่โค้งมนเหมาะสำหรับการใช้งานทั้งภาพถ่ายและวิดีโอในสถานการณ์การทำงานที่หลากหลาย เซ็นเซอร์ Exmor R BSI CMOS 24.2MP ใหม่และโปรเซสเซอร์ BIONZ X ปรับปรุงคุณภาพภาพ ความสามารถด้านวิดีโอ และประสิทธิภาพของ AF เพื่อปรับปรุงความเร็วและประสิทธิภาพในสภาวะแสงน้อยให้ดีขึ้น นอกจากนี้ a7 III ยังมีการออกแบบตัวเครื่องที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วยหน้าจอสัมผัส LCD ใหม่ EVF ที่ได้รับการปรับปรุง แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น และช่องใส่การ์ดหน่วยความจำคู่

เซ็นเซอร์ BSI ฟูลเฟรมและโปรเซสเซอร์ BIONZ X

เซนเซอร์ Exmor R CMOS ฟูลเฟรม 24.2 เมกะพิกเซลมีการออกแบบให้แสงด้านหลัง ทำงานร่วมกับโปรเซสเซอร์ภาพ BIONZ X เพื่อนำเสนอภาพนิ่งและวิดีโอที่มีความละเอียดสูง ในขณะที่ลดสัญญาณรบกวนและปรับปรุงความเร็ว การออกแบบ BSI ยังปรับปรุงความเร็วในการรับส่งข้อมูลอย่างมากสำหรับการสร้างภาพนิ่งความละเอียดสูง 14 บิตที่มีช่วงความไวดั้งเดิมตั้งแต่ ISO 100-51200 ซึ่งสามารถขยายเพิ่มได้ถึง ISO 50-204800 นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถบันทึกวิดีโอ UHD 4K ภายในด้วยช่วงไดนามิกกว้างโดยใช้ความกว้างเต็มของเซ็นเซอร์ฟูลเฟรม โปรเซสเซอร์ BIONZ X ยังทำงานร่วมกับ LSI ฟรอนต์เอนด์ความเร็วสูงเพื่อให้ได้เวลาในการประมวลผลที่เร็วขึ้นพร้อมกับความสามารถในการจับภาพช่วงไดนามิก 15 สต็อปที่น่าประทับใจที่ค่าความไวแสงต่ำ

การรวมกันของเซ็นเซอร์และโปรเซสเซอร์ยังช่วยให้ถ่ายภาพต่อเนื่องได้รวดเร็วถึง 10 fps ที่ความละเอียดสูงสุด สูงสุด 177 เฟรมติดต่อกัน และ AF/AE เต็มเวลาเมื่อทำงานกับชัตเตอร์กลไกหรือชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ หากถ่ายภาพในโหมดไลฟ์วิว อัตราการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 8 เฟรมต่อวินาทีก็สามารถทำได้เช่นกัน
การบันทึกวิดีโอ UHD 4K ในรูปแบบ XAVC S

การบันทึกภาพยนตร์ UHD 4K ภายในทำได้หลายเฟรมเรตสูงสุด 30 fps และใช้การสุ่มตัวอย่างเกิน 2.4 เท่า ซึ่งให้รายละเอียดที่มากกว่า และการอ่านแบบเต็มพิกเซลก็เป็นไปได้เช่นกัน เพื่อภาพที่มีคุณภาพสูงขึ้นโดยลด moir? และ aliasing นอกจากนี้ยังรองรับการบันทึกแบบ Full HD 1080p ในอัตราเฟรมสูงสุด 120 fps และทั้งความละเอียด 4K และ FHD จะใช้รูปแบบ XAVC S 100 Mb/s ที่อยู่ในห่อ MP4 พร้อมการสุ่มตัวอย่าง 4:2:0

การบันทึกความเร็วสูงที่ 120 fps ยังช่วยให้สามารถบันทึกภาพยนตร์แบบสโลว์โมชั่น 4x และ 5x โดยตั้งค่าอัตราเฟรมเป็น 30p หรือ 24p นอกจากการบันทึกภายในที่มีความละเอียดสูงแล้ว เอาต์พุต HDMI ที่ไม่บีบอัดยังช่วยให้สามารถใช้เครื่องบันทึกภายนอกเสริมสำหรับการบันทึก 4K ที่สะอาดด้วยการสุ่มตัวอย่าง 4:2:2
S-Log3, HLG และการควบคุมสีและแกมมาอื่นๆ
ด้วยการควบคุมสีและแกมม่าที่ปรับแต่งได้มากมาย a7 III ช่วยให้ผู้ใช้ปรับแกมม่า ระดับสีดำ เข่า ระดับสี และอื่นๆ นักถ่ายภาพสามารถใช้ S-Log2 Gamma Curve แบบเดียวกับที่พบในกล้อง Sony Cinema ระดับไฮเอนด์ที่บีบช่วงไดนามิกมากขึ้นถึง 1300% ในสัญญาณวิดีโอเมื่อเทียบกับ REC709 แบบดั้งเดิม เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นหลังการถ่ายทำ

รองรับ HLG (Hybrid Log-Gamma) พร้อมกับปริภูมิสี BT.2020 สำหรับการบันทึกภายในช่วงสีที่กว้าง และนอกจาก S-Log2 แล้ว S-Log3 ยังมีให้สำหรับสร้างไดนามิก 14 สต็อปที่มีประสิทธิภาพ ช่วงที่มีการควบคุมการไล่ระดับสีที่เพิ่มขึ้นในบริเวณเงาถึงบริเวณโทนสีกลางของภาพ
ออโต้โฟกัสและระบบป้องกันภาพสั่นไหว

ระบบ AF ไฮบริดที่รวดเร็ว
ขณะนี้ระบบ 4D FOCUS ที่พัฒนาขึ้นใช้การรวมจุดตรวจจับเฟส 693 จุด ซึ่งครอบคลุมประมาณ 93% ของเฟรม พร้อมด้วยพื้นที่ตรวจจับคอนทราสต์ 425 จุด เพื่อการโฟกัสอัตโนมัติที่เชื่อถือได้และรวดเร็วและประสิทธิภาพการติดตามวัตถุ ระบบ Fast Hybrid AF นี้มีความเร็วในการโฟกัสเป็นสองเท่าและการติดตามที่เชื่อถือได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่น a7 ก่อนหน้า รวมทั้งปรับปรุงการโฟกัสในสภาวะแสงน้อยด้วย
AF แบบ Lock-on จะรักษาโฟกัสที่วัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ผ่านการใช้เฟรมที่กำหนดค่าได้ซึ่งตั้งค่าเหนือวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ที่ต้องการ
จุดที่ยืดหยุ่นแบบขยายใช้จุดโฟกัสที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อรักษาโฟกัสที่วัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ แม้ว่าจุดที่เลือกไว้เดิมจะสูญเสียโฟกัสก็ตาม
สามารถใช้ Eye AF เพื่อโฟกัสพื้นฐานที่ดวงตาของวัตถุที่จดจำได้สำหรับภาพบุคคล และสามารถใช้ได้ทั้งในโหมด AF-S และ AF-C
สามารถใช้ฟังก์ชัน Focus Magnifier สำหรับการโฟกัสที่สำคัญเมื่อกลับไปสู่รายละเอียดของวัตถุนาที
หน้าจอสัมผัสด้านหลังยังสามารถใช้ควบคุมโฟกัสแบบสัมผัสได้ และโหมดควบคุมโฟกัสบนทัชแพดช่วยให้คุณใช้หน้าจอด้านหลังได้อย่างเป็นธรรมชาติโดยที่ไม่ต้องละสายตาจากช่องมองภาพ

ระบบป้องกันภาพสั่นไหว SteadyShot ภายในแบบ 5 แกน
สิ่งที่รวมอยู่ใน a7 III อันแข็งแกร่งคือระบบป้องกันภาพสั่นไหว SteadyShot INSIDE แบบ 5 สต็อปที่มีประสิทธิภาพ 5 สต็อป ซึ่งชดเชยการสั่นของกล้องห้าประเภทที่พบระหว่างการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอแบบถือกล้องด้วยมือ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้เลนส์ใดๆ ก็ตาม แม้กระทั่งเลนส์ที่ดัดแปลงแล้ว เพื่อการถ่ายภาพที่สำคัญได้อย่างมั่นใจโดยไม่เกิดปัญหาภาพเบลอจากการสั่นไหวของกล้อง

สำหรับทางยาวโฟกัสที่ยาว ระบบจะแก้ไขการปรับระดับเสียงและการหันเห ในทางกลับกัน ภาพมาโครและภาพขยายสูงจะได้รับประโยชน์จากการรวมการชดเชยการเลื่อนในแนวนอนและแนวตั้ง สไตล์การถ่ายภาพทั้งหมดจะใช้ประโยชน์จากการชดเชยการหมุน ระบบป้องกันภาพสั่นไหวทั้ง 5 แกนจะทำงานตลอดเวลา แม้เมื่อใช้กับเลนส์และอะแดปเตอร์ของบริษัทอื่น หรือเลนส์ที่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัว
การออกแบบตัวเครื่องและการเชื่อมต่อ

XGA OLED Tru-Finder EVF มีความละเอียด 2.36m-dot และกำลังขยาย 0.78x เพื่อการรับชมที่สดใสและชัดเจนในรายละเอียดสูง
นอกจาก EVF แล้ว ยังมีจอ LCD ด้านหลังขนาด 3.0 นิ้ว 922,000 จุด ซึ่งมีการออกแบบแผงสัมผัสเพื่อการสั่งงานและการควบคุมโฟกัสที่ง่ายดาย หน้าจอยังเอียงขึ้นได้ 107? และลงได้ 41? เพื่อประโยชน์ในการทำงานจากมุมสูงและมุมต่ำ .

แชสซีโลหะผสมแมกนีเซียมรับประกันความแข็งแกร่ง ความทนทาน และความมั่นคงในขณะที่ยังคงน้ำหนักเบา เมาท์เลนส์ยังได้รับการปรับปรุงให้รองรับเลนส์ที่มีน้ำหนักมากได้ดีขึ้น และความแข็งแกร่งของกริปได้รับการปรับปรุงเพื่อให้จับถือได้สบายมือยิ่งขึ้น
มีการปิดผนึกสภาพอากาศเพื่อป้องกันฝุ่นและความชื้นเพื่อการทำงานที่เชื่อถือได้ในสภาพอากาศที่รุนแรง
เมื่อใช้แบตเตอรี่ NP-FZ100 ทำให้ a7 III มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น และปัจจุบันสามารถถ่ายภาพได้ประมาณ 710 ภาพต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
ช่องเสียบการ์ดหน่วยความจำ SD คู่ช่วยให้สามารถบันทึกและจัดการไฟล์ได้อย่างยืดหยุ่น และสามารถกำหนดค่าให้แบ่งไฟล์ดิบและไฟล์ JPEG หรือใช้สำหรับการบันทึกแบบโอเวอร์โฟลว์ได้ ช่องเสียบการ์ดช่องหนึ่งรองรับการ์ดหน่วยความจำ UHS-II
เพิ่มพอร์ต USB 3.0 Type-C นอกเหนือจากพอร์ต micro-USB เพื่อรองรับการปล่อยสัญญาณที่รวดเร็วและเชื่อถือได้มากขึ้น การเชื่อมต่อ USB Type-C ทำให้สามารถชาร์จกล้องจากแหล่งพลังงานโฮสต์ได้ในขณะที่เชื่อมต่อ
Wi-Fi ในตัวช่วยให้ a7 III สามารถแชร์ภาพไปยังอุปกรณ์มือถือได้ทันที เพื่อแชร์ออนไลน์โดยตรงไปยังโซเชียลเน็ตเวิร์ก ผ่านทางอีเมล และไปยังไซต์ที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์
นอกจากนี้ยังรองรับ NFC (Near Field Communication) ซึ่งช่วยให้สามารถเชื่อมต่อด้วยสัมผัสเดียวระหว่างกล้องและอุปกรณ์มือถือที่เข้ากันได้ ไม่จำเป็นต้องมีการตั้งค่าที่ซับซ้อน เมื่อเชื่อมต่อแล้ว อุปกรณ์มือถือที่เชื่อมโยงยังสามารถแสดงภาพไลฟ์วิวบนหน้าจอและควบคุมชัตเตอร์ของกล้องจากระยะไกล
การเชื่อมต่อ Bluetooth ช่วยให้สามารถรับข้อมูลตำแหน่งได้